แม่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน อาการหนักจันทร์เจ้าขาก็ได้บารมีของพระองค์ช่วยเหลือมาตลอด พบเห็นรูปเสด็จเตี่ยฯ ที่ใด ก็จะซื้อเอาไว้ พี่สาวที่อยู่ด้วยกันมาตลอด ได้เห็นเราศรัทธาพระองค์มาก ก็ถามเราว่า ทำไมถึงศรัทธาพระองค์มากขนาดนี้ เราก็ได้แต่ตอบไปว่า อธิบายไม่ได้จ๊ะ แต่ที่อธิบายได้ก็คือ ศรัทธาในความเป็นคนดีของพระองค์ พี่สาวของจันทร์เจ้าขาได้ฟัง แต่เขาก็ยังรู้สึกเฉยๆ
สิ่งที่สร้างจุดเริ่มต้นของความศรัทธาให้กับสมาชิกครอบครัวของจันทร์เจ้าขาครั้งใหญ่ก็คือ คุณแม่ของจันทร์เจ้าขาท่านมีโรคประจำตัวคือ โรคเบาหวาน
วันหนึ่งอาการของท่านหนักมากท่านปวดหัวมากจนถึงกับต้องส่งตัวเข้าโรงพยาบาลโดยด่วน คนที่อยู่ข้างแม่ตลอดก็คือ พ่อ วันนั้นพ่อเป็นคนอยู่กับแม่ (เพราะลูกๆ ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และอยุธยา) และขับรถพาแม่เข้าโรงพยาบาล หลังจากนั้นก็โทรศัพท์แจ้งลูกทั้ง 3 คน (พ่อแม่มีลูก 4 คน) ที่อยู่เมืองไทย ในตอนนั้นจันทร์เจ้าขาเรียนอยู่ที่สถาบันฯ เราก็ให้ตกใจอย่างมาก บอกอาจารย์ผู้สอน ขออนุญาต รีบไปแจ้งทางอาจารย์ที่ปรึกษา ท่านก็ใจดีเป็นยิ่งนัก ท่านอนุญาตให้เพื่อนที่มีรถยนต์ขับไปส่งเรา ท่านจะออกค่าน้ำมันให้
ตอนนั้นนั่งรถ 2 ชั่วโมง แต่รู้สึกว่ามันนานมากๆๆๆๆๆๆ ใจเราก็ภาวนา ขออย่าให้แม่เป็นอะไรไปนะ พอไปถึงโรงพยาบาล พี่สาว ก็อยู่กับพ่อแล้วและแจ้งว่าพรุ่งนี้พี่ชายจะตามมา เพราะติดสอนหนังสือเด็ก จะลาได้แต่ต้องเป็นพรุ่งนี้นะ
จันทร์เจ้าขามองเห็นสีหน้าพ่อ กับพี่สาวแล้ว รู้ได้ทันทีว่าแม่อาการหนักมาก เราเองก็รู้สึกจุกที่หน้าอก อยากร้องไห้มากๆ แต่ก็พยายามกลั้นเอาไว้ กลัวพ่อกับพี่สาวจะใจไม่ดี ตอนนั้นแม่ถูกส่งเข้าเอกซเรย์สมองทันที เพราะแม่ไม่รู้สึกตัวแล้ว
จนสักพักคุณหมอออกมาบอกว่า ต้องรอผลก่อนนะ แล้วหมอก็ส่งตัวแม่เข้าห้องไอซียู
พ่อเริ่มมีอาการขวัญเสีย (ท่านอยู่ด้วยกันมาตลอด) เราเองก็เริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า พี่สาวนี่ใจแข็งมาก ก็บอกว่า พาพ่อกลับบ้านไปกินข้าวก่อนนะ เดี๋ยวพี่รอหมอเองช่วงเย็นๆ ค่อยมาใหม่
พอจันทร์เจ้าขากลับมาถึงบ้าน หาข้าวหาปลาให้พ่อเสร็จสรรพ สรุปเราทั้งสองคนก็กินข้าวกันไม่ลง อาบน้ำเสร็จก็กลับไปโรงพยาบาลอีกครั้ง พี่สาวแจ้งว่า หมอบอกว่าแม่อาการหนักมากนะ เส้นเลือดในสมองตีบ หากมีปาฏิหารย์รอดไปได้ก็อาจจะเป็นอัมพฤกษ์
ตอนนั้นจันทร์เจ้าขา นึกถึงเสด็จเตี่ยฯ นึกถึงภาพของหมอพร และตั้งจิตอธิษฐานว่า ช่วยคุ้มครองแม่ของลูกด้วยนะเจ้าคะ ขอท่านมีชีวิตรอดนะเจ้าคะ จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ เราจะดูแลแม่กันต่อไป ขออย่างเดียวให้แม่มีชีวิตอยู่
พี่สาวบอกว่าเราจะทำอย่างไรกันต่อไปดีเนี่ย (พี่เขาค่อนข้างสับสนในตอนนั้น เพราะพวกเราจะรักพ่อกับแม่มาก) จันทร์เจ้าขาก็บอกพี่สาวไปตรงๆว่า หนูขอพรจากเสด็จเตี่ยฯ แล้ว หนูเชื่อว่าพระองค์ต้องเห็นใจเราแน่ๆๆๆ พี่สาวจันทร์เจ้าขาก็ยิ้มให้แต่มิได้พูดสิ่งใด
หลังจากคุณหมอท่านใส่สายต่างๆๆ และเครื่องช่วยประทังชีวิตให้แม่ เขาก็เข็นเตียงของแม่ไปยังห้องผู้ป่วย เพื่อรอให้แม่ฟื้นขึ้นมา ตอนนั้นแม่ไม่ได้สติได้แต่หลับอย่างเดียว
วันรุ่งขึ้นในตอนเย็น แม่ลืมตาขึ้น พอมองเห็นลูกแล้วมีน้ำตาไหล (ร้องไห้) แล้วเอ่ยปากจะพูด แต่พูดไม่ถนัดนัก เพราะลิ้นแข็ง เราก็รีบกดปุ่มเรียกพยาบาล คุณหมอเข้ามา ก็ตรวจโน่นตรวจนี่ แล้วก็บอกว่า ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนนะ แล้วไม่ต้องคิดมาก รอดูอาการไปก่อน หากอาการดีขึ้นก็ค่อยๆ ทำกายภาพบำบัด คุณหมอบอกว่า เนี่ยเป็นอาการของคนที่เบาหวานขึ้นสมอง จะเป็นแบบนี้ ต้องระมัดระวัง ควบคุมน้ำตาล และทำสมองให้โล่ง อย่าคิดมากนะป้า (คุณหมอเรียกแม่แบบนั้น)
แม่พูดกระท่อนกระแท่นว่า อยากคุยกับพี่สาวอีกคนหนึ่ง (อยากได้กำลังใจ) แต่เธอไม่ได้อยู่เมืองไทย ช่วงนั้นเธอและสามีเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกด้วยมอเตอร์ไซต์ ไม่ทราบที่อยู่ ไม่ทราบเบอร์โทรศัพท์ ไม่ทราบอีเมล์ เธอจะส่งโปสการ์ดมาให้ตลอด แต่ไม่เคยโทรศัพท์มา (เพราะค่าโทรศัพท์แพงมาก)เรารู้แต่เพียงว่าตอนนั้นเธออยู่ที่นิวซีแลนด์ แต่ไม่ทราบว่าจะติดต่ออย่างไรที่ไหน เราก็ได้แต่ปลอบใจแม่ไปว่า
เดี๋ยวพี่เขาก็จดหมายมาหรือโทรเองหล่ะ จันทร์เจ้าขาก็นึกถึงเสด็จเตี่ยฯ ช่วยให้พี่สาวคนนี้ติดต่อมาด้วยเถอะเราจะได้แจ้งข่าวเรื่องแม่ น่าแปลกมากวันรุ่งขึ้นพี่สาวคนนี้ เธอคนที่ไม่เคยโทรมาปีกว่า แล้วจู่ๆ เธอก็โทรมา เราก็รีบให้แม่ได้พูดได้คุยกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็ร้องไห้โฮ
แม่มีอาการพูดไม่ถนัด ลิ้นแข็ง อวัยวะแถบซ้ายเคลื่อนไหวไม่ถนัดนัก ต้องทำกายภาพบำบัดอยู่โรงพยาบาล 1 เดือน แม่เองก็ใจสู้เหลือหลาย ขยันทำกายภาพบำบัด พอกลับถึงบ้าน พ่อก็ประดิษฐ์เครื่องทำกายภาพบำบัดภูมิปัญญาของพ่อเองให้แม่ทำกายภาพบำบัดทุกๆ วัน
จากเหตุการณ์นี้ เป็นจุดเริ่มต้นของสมาชิกในครอบครัวของจันทร์เจ้าขาให้ความเคารพและศรัทธาในเสด็จเตี่ยฯ เป็นยิ่งนัก โดยเฉพาะพี่สาวของจันทร์เจ้าขา ที่เธอเคยรู้สึกเฉยๆ กับเรื่องนี้ ตอนนี้เธอเองก็ศรัทธาในเสด็จเตี่ยฯ เช่นกัน
วันนี้แม่ของจันทร์เจ้าขา สามารถเดินได้ (แต่วิ่งไม่ได้) ขยับส่วนซ้ายได้ทั้งหมด พูดได้ถนัดเหมือนปกติ แต่โรคเบาหวานก็ยังคงเป็นอยู่ เพราะโรคนี้รักษาไม่หายขาด
สำหรับจันทร์เจ้าขา นี่คือพระเมตตาของเสด็จเตี่ยฯ ที่มีให้กับจันทร์เจ้าขาและครอบครัวเจ้าค่ะและยังมีปาฏิหาริย์อีกหลายต่อหลายครั้งที่เกิดขึ้นกับพวกเรา