ไปนมัสการ หลวงปู่สุภา กันตสีโล ที่วัด สีลสุภาราม จ.ภูเก็ตได้ทราบจากพี่กุหลาบสีแดงว่า ที่จังหวัดภูเก็ตนั้น มี
หลวงปู่สุภา กันตสีโล พระอริยะ ๕ แผ่นดิน อายุ ๑๑๒ ปีซึ่งเคยเป็นศิษย์ และน่าจะเป็นศิษย์องค์สุดท้าย ของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า (พระอาจารย์องค์ ที่ 2 ของท่านต่อจากหลวงปู่สีทัตต์)
แล้วยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีฌาณสูง สร้างวัดและสิ่งก่อสร้างไว้มากมาย แต่ไม่รับเป็นเจ้าอาวาส
ท่านรับเป็นเจ้าอาวาส ก็วัดสีลสุภาราม นี้เป็นแห่งแรก ก็ทำให้เกิดความตั้งใจที่จะไปกราบท่าน
พอได้มีโอกาสได้กลับไปเมืองไทย และได้มีโอกาสได้ลงไปพักผ่อนที่จังหวัดภูเก็ต
ก็ไม่พลาดที่จะไปกราบหลวงปู่ ที่วัดสีลสุภาราม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดฉลอง
คนพื้นที่จะรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดี ตอนที่จันทร์เจ้าขาไปกราบก็เหมารถตุ๊กๆ จากที่พัก
หาดกะตะ มุ่งตรงไปที่วัดเพื่อไปกราบหลวงปู่ (ค่ารถตุ๊กแท็กซี่ แพงมากๆๆ
แนะนำใครไปเที่ยวภูเก็ต ไปถึงเช่าแมงกะไซด์เลย ถูกกว่า
ในการท่องเที่ยว
)
แถมมาใจไม่ดีตรง คนขับแท็กซี่บอกว่า จะได้กราบหลวงปู่เหรอ เพราะหลวงปู่ชราภาพมาก
และบรรดาลูกศิษย์อยากให้ท่านรับแขกน้อยลง (ก็ปาดเหงื่ออีกหนึ่งรอบ
)
แต่ว่าบุญเรายังพอมี หรือว่าโชคดีก็ไม่รู้ ได้มีโอกาสและได้รับอนุญาตให้เข้าไปกราบหลวงปู่ ไปถึงที่กุฏิหลวงปู่ หลวงปู่ยังจำวัดอยู่ ได้ทราบว่าท่านเป็นไข้หวัด ก็เลยจำวัดนาน
ก็กราบหลวงปู่ (มีจุดสำหรับกราบหลวงปู่) นั่งรอกันสักพัก ก็มีคณะบุคคล
เดินทางมาจากกรุงเทพฯ นำของมาถวายเต็มเลย แต่ก็ต้องนั่งรอเช่นกัน
พอใกล้ถึงเวลาจะต้องฉันเพลและรับยา ผู้ดูแลก็จำต้องปลุกหลวงปู่ขึ้นมา
พอหลวงปู่ตื่นขึ้นมา ผู้ดูแลก็อนุญาตให้เข้ากราบหลวงปู่แบบใกล้ชิดได้
และอนุญาตให้ถ่ายภาพ แต่จะต้องไม่ใช้แสงแฟลช เพื่อถนอมตาของหลวงปู่
หลวงปู่ความจำดีมาก ยังไม่หลง ท่านชอบที่จะฟัง
และศึกษาสิ่งที่ผู้คนนำมาถวายด้วยตนเอง โดยไม่ผ่านผู้ดูแล แต่ต้องตะโกน
เพราะหูท่านไม่ค่อยได้ยินแล้ว เป็นภาพที่ประทับใจ จนอมยิ้มไปตามๆ กัน
จันทร์เจ้าขาไม่ได้กุลีกุจอเข้าไป เพราะติดสัมภาษณ์ (พูดคุย) กับพี่ที่ดูแลหลวงปู่
เพราะจันทร์เจ้าขาไปกับฝรั่ง (สามี) ก็มีคุยกันสนุกสนาน
พอสนทนาจบ ก็คลานเข้าไปใกล้ที่สุด (เท่าที่จะทำได้) ก็นำปัจจัยถวายหลวงปู่ตามกำลัง
ทางพี่ผู้ดูแล ก็แจก
สายสิญจ์ถักสำหรับข้อมือ คนละ 1 เส้น (ได้รับมา 2 เส้น)
ได้รับชานหมาก คนละ 1 ชานหมาก (ได้รับมา 2 ชานหมาก)
ได้ทราบมาสายสิญจ์นี้ หากเมื่อใดที่ไม่สบายให้นำไปผูกไว้ที่ข้อมือด้านซ้าย
แล้วอธิษฐานนึกถึงหลวงปู่ อาการก็จะบรรเทา พุทธคุณ เหมือนกับชานหมากเช่นกัน
แต่ชานหมาก ทราบมาว่า พุทธคุณด้านอายุยืนยาว
พอได้รับแล้วก็ต้องรีบถอยออกมา เพราะว่าใกล้จะเลยเวลาเริ่มฉันเพลแล้ว (กลัวบาปจ๊ะ)
แล้วก็กราบลาหลวงปู่จากด้านนอก และลาพี่ผู้ดูแล (มีบางสิ่งให้ฉงนเกิดขึ้น แต่ไม่ขอเล่า
เก็บเป็นความรู้สึกปลาบปลื้มจ๊ะ)
แล้วเดินออกมายังที่ให้เช่าวัตถุมงคล ก็เช่า
แมงมุมดักทรัพย์ จระเข้อาคม และ
พระสมเด็จเป้าคำราคาวัตถุมงคลไม่แพงเลย แต่ทราบมาว่า พุทธคุณสูงมาก (วัตถุมงคลทั้งหมดที่ได้ จะเก็บไว้ให้
กับคนที่รักที่สุด
)
หลังจากนั้นก็ออกมาถ่ายภาพรอบๆๆ บริเวณวัด แล้วก็เดินทางกลับ (เดินกลับจริงๆๆ ด้วยเท้า เพราะไม่ได้ให้รถตุ๊กแท็กซี่รอ)
เดินจากวัดสีลสุภาราม แล้วเดินไปยังวัดฉลองต่อไป